วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ทหารรัฐบาลซีเรียถล่มเมืองฮอมส์ดุเดือด (กนกพร ม.5/6 เลขที่1)


"ทหารรัฐบาลซีเรียถล่มเมืองฮอมส์ดุเดือด"


        ชาวเมืองฮอมส์ ของซีเรีย ต้องพากันหนีลงไปอยู่ตามชั้นใต้ดิน ในขณะที่กองกำลังที่ภักดีต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ยังคงใช้ปฏิบัติการถล่มอย่างต่อเนื่อง ทำให้ถนนหลายสายกลายเป็นถนนร้างเมื่อวันอังคาร และมีเพียงไม่กี่คนที่พยายามหนีให้พ้นเงื้อมมือของหน่วยซุ่มยิงและกระสุนปืนใหญ่
นายทหารคนหนึ่ง ซึ่งอยู่กับกองทัพปลดปล่อยซีเรีย เปิดเผยต่อสำนักข่าวเอพีว่า กองกำลังฝ่ายประธานาธิบดีอัสซาด พยายามจะเข้าไปยังเขตบับร์ อัมร์ จากหลายทิศทาง ทำให้ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นต่อเนื่อง ตอกย้ำสถานการณ์อันตราย และนับเป็นปฏิบัติการที่ต่อเนื่องหลายสัปดาห์ เพื่อถอนรากทหารที่แปรพักตร์และผู้ประท้วงในเมืองฮอมส์ โดยใช้ปืนใหญ่ทำลายอาคารหลายแห่งทำให้ประชาชนตกอยู่ในความหวาดกลัว หลายครอบครัวต้องลงไปหลบอยู่ใต้ดิน หลังจากบ้านเรือนถูกทำลายเสียหาย แต่ก็อันตรายเกินกว่าจะหนีไปที่อื่น
คนเหล่านี้ หลบอยู่นาน 3 วันแล้ว โดยมีอาหารและน้ำไม่มากนัก สภาพอากาศในห้องใต้ดินยังทำให้เด็ก ๆ มีปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจด้วย
นักเคลื่อนไหว ต่างระบุว่า กองทัพฝ่ายรัฐบาลพยายามจะบุกยึดฐานที่มั่นของฝ่ายต่อต้านในเมืองฮอมส์ ที่รวมทั้ง บับ อัมร์  คัลดิเยห์ และบายาดา ทำให้เมืองฮอมส์กลายเป็นพื้นที่ถูกโจมตีนองเลือดที่สุด
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีประชาชนมากกว่า 200 คน ถูกสังหารในช่วงการกวาดล้างชั่วข้ามคืน ก่อนที่คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี)จะลงมติประนามซีเรีย แต่ถูกจีนและรัสเซียใช้สิทธิ์วีโต้
นอกจากนี้ ยังขัดขวางการเข้าถึงพื้นที่สู้รบและไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวอิสระเข้าไปรายงานข่าว ทำให้ยากที่จะได้ข้อเท็จจริงจากทั้งสองฝ่าย
สถานีโทรทัศน์ สกาย นิวส์ ของอังกฤษ รายงานว่า กองกำลังฝ่ายรัฐบาล ถล่มเมืองฮอมส์ซ้ำอย่างหนักเมื่อวันอังคาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 19 คน และเผยแพร่ภาพพลเรือนที่บาดเจ็บ ถูกนำไปยังบ้านหลังหนึ่ง ที่ถูกทำให้กลายเป็นโรงพยาบาลสนาม ผู้บาดเจ็บหลายคน บอกว่า ถูกทหารยิงใส่โดยไม่ทันตั้งตัว
ขณะที่กองทัพปลดปล่อยซีเรีย ประกาศจะปกป้องพื้นที่ของพวกเขา แต่พวกเขาก็ต้องเผชิญทั้งปืนใหญ่ รถถังและหน่วยซุ่มยิง ที่ถูกเสริมกำลังเข้าไปเรื่อยๆ ขณะที่สกายนิวส์ ระบุว่า คนเหล่านี้ขาดประสิทธิภาพในการควบคุมและบัญชาการ
สหประชาชาติ  ประเมินว่า การกวาดล้างของฝ่ายรัฐบาล ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5,400 คน ตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว ทำให้ซีเรียเป็นประเทศที่มีการขัดแย้งนองเลือดที่สุดในบรรดาชาติที่เผชิญวิกฤติอาหรับสปริง หรือ กระแสการลุกฮือต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในหมู่ประเทศอาหรับ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผู้คนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก แต่ยากที่จะระบุตัวเลขล่าสุดได้ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ยังทำให้นานาชาติโดดเดี่ยวซีเรียหนักที่สุดในรอบกว่า 4 ทศวรรษ โดยหลายประเทศพากันเรียกทูตของตัวเองกลับ
ภาพภายในเมืองฮอมส์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 3 ของซีเรีย และถ่ายโดยช่างภาพอิสระในช่วงหลายวันที่ผ่านมา พบว่า ศูนย์พยาบาลบับร์ อัมร์ เนืองแน่นไปด้วยผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต มีพิธีฝังศพเกิดขึ้นทุกวัน
สมาชิกกองกำลังปลดปล่อยซีเรีย ระบุว่า จะตอบโต้และปกป้องที่อยู่ของพวกเขาจากหน่วยซุ่มยิงของประธานาธิบดีอัสซาด พวกเขาใช้อาคารร้างเป็นที่ซ่อนตัว และเคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง เพื่อหาที่ซ่อนของหน่วยซุ่มยิง
ขณะที่ ศักยภาพในการรบต่างกันมาก รัฐบาลมีรถถัง แต่พวกเขามีแค่อาวุธปืนไรเฟิล ซึ่งด้านนอก มีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังสนั่นมาจากถนนที่ถูกปล่อยร้าง
ประชาชนและนักรบที่บาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลสนาม ในบับ อัมร์ แพทย์ต้องรับมือกับผู้ป่วยจำนวนมากและบาดเจ็บสาหัส ท่ามกลางเสียก่นด่าประธานาธิบดีอัสซ้าด ผู้เสียชีวิตถูกห่อด้วยผ้าสีขาวและถูกนำขึ้นไปไว้ทายรถปิคอัพ นักเคลื่อนไหว ระบุว่า มีแต่มือปืนซุ่มยิงเต็มไปหมด ทำให้ไม่ปลอดภัยต่อการเข้าหรือออก เกิดการขาดแคลนอาหารและเวชภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม แม้จะเสี่ยงจะถูกโจมตี พิธีฝังศพก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป ด้านสำนักงานสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ทหารฝ่ายรัฐบาลพยายามบุกบับร์ อัมร์ เพื่อยึดครองให้ได้
ที่มา : http://www.norsorpor.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น