วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

ความสำคัญและคุณประโยชน์ของการป้องกันโรค (พรนภา ม.5/6 เลขที่16)

ความสำคัญและคุณประโยชน์ของการป้องกันโรค
       คำกล่าวที่ว่า " ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ "  นั้นเป็นความจริงที่สุด  เพราะว่าคนทุกคนไม่มีใครอยากเจ็บป่วย  เพราะว่าเมื่อเจ็บป่วยแล้วจะอยู่ในภาวะที่ไม่สบายกายไม่สบายใจ  การเจ็บป่วยทรมานจิตใจ  ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่เจ็บป่วยเท่านั้น พ่อแม่พี่น้อง คนใกล้ชิด  ก็พลอยทุกข์ทรมานไปด้วย  และยังทำให้เสียเงินทอง  เสียเวลาในการรักษาการเจ็บป่วยนั้น เพื่อกลับคืนสู่สภาพปกติ  หรือมีสุขภาพดีให้เร็วที่สุดอีกด้วย  เมื่อการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ  นั้นเป็นสิ่งที่ไม่พึ่งปรารถนา  เราจึงต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยโดยการป้องกันโรค
        การป้องกันโรค  หมายถึงการกระทำหรืองดกระทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยหรือเป็นโรคแล้วและการป้องกัน
ไม่ให้กลับเป็นซ้ำในกรณีที่หายจากการเจ็บป่วยเป็นโรคแล้ว
ระดับการป้องกันโรคและหลักการป้องกันโรค
        จากความหมายของการป้องกันโรคดังกล่าวข้างต้นทำให้แบ่งระดับของการป้องกันโรคออกเป็น  3  ระดับ  คือ

                1. การป้องกันก่อนการเกิดโรคหรือก่อนการเจ็บป่วย  หมายถึง การกระทำหรืองดการกระทำใดๆ  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเป็นโรคหรือเกิดการเจ็บป่วยขึ้น เช่น  การดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ  เพื่อไม่ให้เจ็บป่วยได้ง่าย  เช่น  การระวังไม่ให้ยุงลายกัด  เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคไข้เลือดออก การฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด  เป็นต้น
                2. การป้องกันโรคในระยะที่เกิดโรคหรือเจ็บป่วยขึ้นแล้ว  หมายถึง  การกระทำหรือการงดกระทำใดๆ  ที่จะทำให้อาการเจ็บป่วยจากโรคที่เป็นอยู่นั้นไม่รุนแรงมากขึ้น  หรือหายป่วยจากโรคนั้นโดยเร็วที่สุด  เช่น  การกินยาและปฏิบ้ติตามที่แพทย์สั่งเมื่อป่วย  เป็นต้น
                3. การป้องกันโรคเมื่อหายจากการเจ็บป่วยด้วยโรคแล้ว  หมายถึง  การกระทำหรือการงดกระทำใดๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ็บป่วยหรือเกิดเป็นโรคนั้นซ้ำอีกภายหลัง

      การป้องกันโรค  มีหลักการที่สำคัญ  2  ประการ คือ
การป้องกันโรคด้วยตนเอง  หมายถึง  การกระทำหรือไม่กระทำบางสิ่งบางอย่างของตนเอง  เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองและคนอื่นๆ  เกิดเจ็บป่วยหรือการเกิดโรคขึ้น  รวมทั้งการป้องกันการระบาดของโรคที่อาจเกิดขึ้นในชุมชนด้วย  สิ่งที่สำคัญที่สุดในประเด็นนี้คือ  การเสริมสร้างสุขภาพเพื่อการป้องกันโรค
การป้องกันโรคระดับบุคคล    มีวิธีการปฏิบัติดังนี้.
        1. ดูแลรักษาสุขภาพให้สุขภาพแข็งแรง  ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  กินอาหารที่มี
คุณประโยชน์อย่างเพียงพอ  นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ  และลดการสูบบุหรี่
        2. ล้างมือด้วยสบู่และทำให้สะอาดอยู่เสมอ  และใช้ช้อนกลางเมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
        3. หลีกเลี่ยงการเดินทางในประเทศ  หรือพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคนี้
        4. ถ้าจำเป็นต้องเดินทางในประเทศหรือที่ที่มีการระบาดของโรคนี้  เมื่อกลับมาจะต้องผ่านกระบวนการตรวจคัดกรอง
ความสำคัญและคุณประโยชน์ของการป้องกันโรค
        คำกล่าวที่ว่า " ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ "  นั้นเป็นความจริงที่สุด  เพราะว่าทุคนไม่มีใครอยากเจ็บป่วย  เพราะว่าเมื่อเจ็บป่วยแล้วจะอยู่ในภาวะที่ไม่สบายกายไม่สบายใจ  การเจ็บป่วยทรมานจิตใจ  ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่เจ็บป่วยเท่านั้น  พ่อแม่พี่น้อง ก็พลอยทุกข์ทรมานด้วย และยังทำให้เสียเงินทอง  เสียเวลาในการรักษาการเจ็บป่วยนั้น  เพื่อกลับคืนสภาพปกติและมีสุขภาพดีให้เร็วที่สุดอีกด้วย   เมื่อการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ  นั้นเป็นสิ่งไม่พึงปรารถนา  เราจึงต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยโดยการป้องกันโรค
        การป้องกันโรค  หมายถึง  การกระทหรืองดกระทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อไม่ให้เกิดการเจ็บป่วบด้วยโรคต่างๆ  รวมทั้งป้องกันไม่ให้การเจ็บป่วยนั้นรุนแรงมากขึ้นในกรณีที่เจ็บป่วยหรือเป็นโรตแล้วและการป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำในกรณีที่หายจากการเจ็บป่วบเป็นโรคแล้ว
       สิ่งแวดล้อมทางสุขภาพมีความสำคัญต่อสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของทุกๆ คน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งแวดล้อมที่บ้านของเรา  เช่นตัวบ้านเรือน  ห้องน้ำ  ห้องส้วม น้ำดื่ม  นำใช้  บริเวณบ้าน  ขยะมูลฝอย  ซึ่งสิ่งแวดล้อมเหล่านี้สมาชิกทุกคนในบ้านจำเป็นต้องเอาใจใสร่วมมือ  และช่วยเหลือกันดูแลรักษาให้ถูกสุขลักษณะอยู่เสมอ  แต่การที่จะดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทางสุขภาพให้คงทนถาวรและถูกสุขลักษณะ  รวมทั้งได้ผลดีอย่างแท้จริงนั้น  เราต้องมีควมรู้ความเข้าใจถึงลักษณะโดยทั่วไปของสิ่งแวดล้อมแต่ละอย่าง  พร้อมทั้งจะต้องมีความรู้จักวิธีปฏิบัติเพื่อนำไปบำรุงรักษาและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
        สิ่งแวดล้อมทางสุขภาพ   ซึ่งหมายถึง  สิ่งที่มีชีวิตและสิ่งที่ไม่มีชีวิตต่างๆ  เช่น  คน  สัตว์  พืช  วัตถุหรือสิ่งของอื่นๆ  ทีอยู่รอบๆตัวเรา  และอาจมีอิทธิพลทางตรงและทางอ้อมต่อสุขภาพ  ดังนั้นสิ่งแวดล้อมเหล่านี้จึงมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของคนเรามาก
        คนเราต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมตลอดเวลานับตั้งแต่วัยทารกเป็นต้นมา  สุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของเราจะดีหรือไม่เพียงใดส่วนหนึ่งย่อมขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม  ซึ่งรอบๆ ตัวเรานั้นมีสิ่งแวดล้อมอยู่มากมายหลายอย่างจนนับไม่ถ้วน  มีทั้งสิ่งแวดล้อมที่ให้คุณแลให้โทษปะปนกันแต่สิ่งแวดล้อมส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่มนุษย์สามารถปรับปรุงแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นได้โดยเฉพาะบ้านหรือที่อยู่อาศัยและน้ำดื่มน้ำใช้ซึ่งเป็นสิ่งแวดล้อมที่จำเป็นและสำคัญมากในชีวิตประจำวัน  เราสามารถดูแลรักษาให้ถูกสุขลักษณะอยู่ได้เสมอ  ถ้าเมื่อสิ่งแวดล้อมเหล่านี้เกิดปัญหาและเป็นพิษเป็นภัยต่อความเป็นอยู่  เราก็จะต้องปรับปรุงแก้ไขให้ถูกสุขลักษณะและมีสภาพที่ดีขึ้น

อาหารรักษาโรค :))) กนกพร ม.5/6 เลที่1

อาหารรักษาโรค

ข้าวโพด
   ข้าวโพดที่มีถิ่นกำเนิดมาจากอเมริกา แต่ปัจจุบันนี้เขตเมืองร้อนก็นิยมปลูกกัน สรรพคุณทางยาของข้าวโพดนั้นมีหลายอย่าง ตั้งแต่เมล็ดข้าวโพด ที่ช่วยบำรุงปอด หัวใจ กระเพาะอาหาร และช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหาร แม้กระทั่ง ซังข้าวโพดก็ช่วยแก้อาการท้องร่วง และโรคบิดได้ด้วย 

กระชาย 
   กระชายเป็นพืชสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อนแฝงขม ช่วยดับกลิ่นคาวในอาหารและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากเพราะเป็นแหล่งรวมธาตุต่างๆเช่นเกลือแร่ แป้ง ไขมัน แคลเซียม เหง้าของกระชายมีน้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ช่วยขับลม มีสรรพคุณในการแก้ปวดมวนท้อง แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียด และนอกจากนี้ก็ยังเป็นยาบำรุงกำลังอีกด้วย 

กระท้อน 
   กระท้อนเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอมฝาด ซึ่งนอกจากจะรับประทานสดๆ หรือทำเป็นกระท้อนลอยแก้วแล้ว กระท้อนก็ยังสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้อีกหลายอย่าง ผลของกระท้อนนั้น ถ้าเป็นลูกเล็ก มักจะมีรสฝาดเปรี้ยว ส่วนผลกระท้อนลูกใหญ่ก็มักจะมีเนื้อปุยขาวเหมือนปุยเมฆและมีรสหวานซ่านเปรี้ยว ส่วนสรรพคุณทางยาของกระท้อนก็คือ เป็นยาช่วยระบายถ่ายท้องได้ 

ขจร 
   ขจรนั้น แต่เดิมเราเรียกกันว่าสลิด ส่วนสาเหตุที่เปลี่ยนชื่อก็อาจเป็นเพราะว่าดอกขจรมีกลิ่นหอมละมุนละไมขจรไกลมากก็เป็นได้ ขจรเป็นไม้ที่เติบโตง่าย เลี้ยงไว้ดี เพราะนอกจากดอกขจรจะนำมากินเป็นอาหารได้แล้ว รากขจรก็ยังเป็นยาได้อีกด้วย เมื่อคนถูกพิษรับประทานเข้าไป จะอาเจียนออกมา เป็นการถอนพิษ และนอกจากนี้ก็ยังมีสรรพคุณกระตุ้นช่วยทำให้เจริญอาหารอีกด้วย 

ขิง 
   ขิงประกอบไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินหลายชนิดรวมถึงน้ำมันหอมระเหย มีฤทธิ์ทำให้ร่างกายอบอุ่น บำรุงกระเพาะ แก้คลื่นไส้อาเจียน และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย ขิงแก่จะมีรสชาดเผ็ดร้อนมากกว่าขิงอ่อน ส่วนขิงสดนั้น เมื่อบดแล้วคั้นเอาแต่น้ำ จะช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูกน้ำมูกไหล อาการเจ็บคอและเสมหะก็จะหายไปได้ด้วย 



ถั่วพู 

   ถั่วพูนั้นเป็นพืชล้มลุก และเป็นพืชที่มีสารอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินซี และ วิตามินอี ถั่วพูฝักอ่อนๆ สีเขียวสดเมื่อนำมารับประทานกับน้ำพริกแล้วก็จะกรอบหวาน รสชาดอร่อยมาก ตำรายาชูกำลังสมัยโบราณบอกไว้ว่า ถั่วพูนั้น ถือเป็นพืชผักที่มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง และบำรุงสุขภาพได้เป็นอย่างดี 



กระเทียม 

   กระเทียมเป็นพืชผักที่มีกลิ่นฉุนเป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นผักมีประโยชน์หลายอย่าง ไม่ว่าจะช่วยทำให้รสชาดของอาหารดีขึ้น ดังจะเห็นได้จากอาหารที่เรารับประทานหลายอย่าง มักจะมีกระเทียมเป็นส่วนประกอบ นอกจากนี้ กระเทียมยังมีผลดีต่อสุขภาพด้วยคือ ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งถ้าใครที่รับประทานกระเทียมบ่อยๆ แล้วล่ะก็ จะช่วยไม่ให้เส้นเลือดอุดตันได้ 

กล้วย 
   กล้วยเป็นพืชล้มลุกที่ปลูกได้ง่ายดาย ส่วนต่างๆของกล้วยไม่ว่าผล ดอก ใบ จนถึงลำต้น ล้วนสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น สำหรับยาพื้นบ้านที่ทำจากกล้วยก็ใช้รักษาได้หลายโรค อย่างเช่นผลกล้วยดิบๆ นั้นมีสรรพคุณรักษาอาการท้องเสีย อาหารไม่ย่อย หรือเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้ นอกจากนี้ผลกล้วยสุก เมื่อนำมาปิ้งโดยไม่ให้เปลือกไหม้ แล้วรับประทานทั้งเปลือก ก็ยังช่วยแก้ไขอาการท้องผูก หรือริดสีดวงทวารได้ 



แครอท 
   แครอทเป็นพืชที่มีสีสันสดใส น่ารับประทาน ดังนั้น หลายๆคนจึงนิยมใช้แครอทไว้ประดับตกแต่งอาหาร แครอทอุดมไปด้วยวิตามินเอซึ่งก็ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยลดความดันเลือด และยังมีสรรพคุณทำให้อายุยืนยาว นอกจากนี้แครอทก็ยังช่วยบำรุงผิวกร้าน ทำให้กลับนุ่มมีน้ำมีนวลมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยรักษาอาการตาพร่า ตาฟาง ให้กลับสว่างสดใสด้วย 

เสรีอาเซียน...เด็กไทยพร้อมกันหรือยัง? [น.ส.นภัสวรรณ No.10 M.5/6]


สถานการณ์การเปิดเสรีอาเซียนกำลังเป็นที่พูดถึงกันมาก โรงเรียนก็ให้การบ้านเรื่องอาเซียนกันหลายวิชา รัฐบาลทำโครงการพูดภาษาอังกฤษ 1 วันให้เตรียมตัวเตรียมพร้อมตนเองให้รับมือการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งไม่ว่าผลของการเปลี่ยนจะออกมาในทางบวกหรือลบแต่ถ้าตัวเรามีความสามารถ และพร้อมจะใช้ความสามารถของเราให้เกิดประโยชน์ต่อครอบครัว และสังคมได้อย่างดีที่สุด เราก็จะเป็นผู้อยู่รอดในยุคเสรีนี้

การรับรู้ของเยาวชนไทยเกี่ยวกับกรณีเสรีอาเซียนนี้เป็นรายงานวิจัย เรื่อง ความรู้ความเข้าใจของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในประชาคมอาเซียน ศึกษาเฉพาะกรณีนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งจัดทำโดยกองวิจัยตลาดแรงงาน กรมการจัดหางาน จากกลุ่มตัวอย่างนักเรียน จํานวน 736 คน พบว่า

- นักเรียนส่วนใหญ่ ถึงร้อยละ 94.84 ไม่ทราบเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในประชาคมอาเซียน และมีเพียงร้อยละ 5.16 เท่านั้นที่ตอบว่าทราบ

- ในจำนวนคนที่ตอบว่าทราบเรื่องนี้รู้เรื่องรายละเอียดปีเริ่มต้นที่จะเปิดเสรีและเงื่อนไขอาชีพเพียงร้อยละ 0.54 เท่านั้น

ซึ่งถือว่าน้อยมากเลย


วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

ภัยพิบัติ:แผ่นดินไหว ^-^ (((( กนกพร No.1 เลขที่1 ))))

แผ่นดินไหว *_* 9.5 ริกเตอร์ ในประเทศซิลิ มากที่สุดในโลกที่ผ่านมา *_* ในปี2554 
เมื่อปี 2554 ได้เกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบที่ผ่านมา

       แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงทีสุดในโลกเกิดที่ เมืองวาลดิเวีย(Valdivia) ทางตอนใต้ของประเทศชิลี(อยู่ตรงชายฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้ ติดกับประเทศอาร์เจนติน่า) ห่างจากเมืองหลวงคือซานติอาโกประมาณ 700 กม.วัดความแรงได้ถึง 9.5 ตามมาตราริกเตอร์ ไหวอยู่นานถึง 5 นาทีกว่า เมืองใหญ่ๆ ถล่มทลายไปสามเมือง ไม่นับเมืองเล็กเมืองน้อยและหมู่บ้านตามแนวชายฝั่ง พวกที่รอดจากแผ่นดินไหวมาได้ต้องเจอกับคลื่นสึนามิสูงถึง 24 เมตร (ประมาณตึก 7 ชั้น) คลื่นนี้แผ่ออกไปถึงชายฝั่งอีกด้านหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิคอย่างญี่ปุ่นหรือเกาะฮาวายที่อยู่ระห่างทางเสียหายไปด้วยแต่ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ ชิลีเจอแผ่นดินไหวหนักๆมาหลายครั้ง ขนาดวันนั้นยังไหวตั้งหลายหนมาแต่เช้า จนผู้คนชักจะหวาดๆ ส่วนใหญ่เลยออกมายืนคุยกันอยู่ตามถนนหรือนอกอาคารซึ่งนับว่าคิดถูก เพราะไม่งั้นคงตายมากกว่านี้
ข้อควรปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหว


ที่มา ^_^ http://mrvop.wordpress.com

แปรปรวน! นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้หิมะตกหนัก แต่มอสโกร้อนจัด [ น.ส.นภัสวรรณ ปัญญา M.5/6 No.10]

หิมะตกหนักในรอบ 50 ปี ,นิวซีแลนด์ , เวลลิงตัน ,อากาศแปรปรวน
หิมะตกหนักที่ชานเมืองย่านจอห์นสันวิล เมืองเวลลิงตัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าว หิมะตกหนักมากที่สุดในรอบกว่าครึ่งศตวรรษในเมืองไครสต์เชิร์ช เวลลิงตัน และออคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ หิมะตกผิดฤดูที่แอฟริกาใต้ ขณะที่เกิดอากาศร้อนที่สุดในรอบ 20 ปีของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย

ทั้งนี้ หิมะตกหนักสุดที่เมืองไครสต์เชิร์ช และออคแลนด์ทางหลวงหลาย10 สายใช้การไม่ได้เนื่องจากหิมะปกคลุมหนา ส่งผลมให้บ้านเรือนเกือบ 100 หลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ โรงเรียนต้องปิดเรียนชั่วคราว

ตรงข้ามกับชาวเมืองเวลลิงตันที่ตื่นตาตื่นใจกับหิมะที่โปรยปรายลงมาในรอบ 40 ปี แม้ว่า สนามบินของเมืองจะต้องผิดทำการชั่วคราว และต้องใช้รถบรรทุกตักหิมะออกจากถนน

สำนักอุตุนิยมวิทยานิวซีแลนด์ คาดการณ์ว่า คลื่นความเย็นจะปกคลุมนิวซีแลนด์ต่อไปจนถึงวันพุธ โดยอุณหภูมิของทั้งสามเมืองข้างต้น ลดลงต่ำถึง -4 องศาเซลเซียส ส่วนทางการได้ออกมาเตือนประชาชนให้เตรียมตัวรับมือ โดยเตรียมทั้งเสื้อผ้า อาหารและน้ำให้พร้อมต่อการอาศัยอยู่แต่ในบ้านอีกหลายวัน


อากาศร้อนที่สุด ,มอสโก ,รัสเซีย ,อากาศแปรปรวน

ผู้คนออกมาอาบน้ำเพื่อคลายร้อนในเขื่อนของแม่น้ำมอสโก

ส่วนที่แอฟริกาใต้ ประชาชนต่างพากันแปลกใจที่หิมะตกผิดฤดูกาล เกิดหิมะตกในหลายพื้นที่ ส่งผลให้การจราจรในเมืองประสบปัญหา ต้องปิดถนนไปหลายสายรวมทั้งถนนหลวงสาย N3 แต่ที่นครโจฮันเนสเบิร์ก ที่มีหิมะตกไม่หนักนัก ก็มีเด็กออกมาเล่่นหิมะกันอย่างสนุกสนาน

ทางด้านกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ก็ทุบสถิติร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 20ปี เมื่ออุณหภูมิสูงถึง 31.4 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้เมื่อปี พ.ศ.2533

ที่มา :

http://news.mthai.com/world-news/127186.html

<ภาคเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นและหนาวจัดบริเวณยอดดอย> นส.พรนภา กุลประดิษฐ์ เลขที่16 ม.5/6


alt

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันพุธที่ 18 มกราคม 2555 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ในระยะ 2-3 วันนี้ ลมตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีฝนตกได้ในระยะนี้

อนึ่ง ภาคเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นและมีอากาศหนาวจัดบริเวณเทือกเขาและยอดดอย กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนน้อย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ ตอนบนของภาคอากาศหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศา ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-9 องศา ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศา ส่วนทางตอนล่าง อากาศเย็นกับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นทางตอนบนของภาค กับมีหมอกบางในตอนเช้า และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆมากกับมีฝนกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา สำหรับบริเวณเทือกเขา อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี และยะลา อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมากกับมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

ภัยพิบัติในประเทศไทย *-* (กนกพร No.1)

ภัยพิบัติน้ำท่วม  :))))   
เมื่อปีพ.ศ.2554 ได้เกิดภัยพิบัติน้ำท่วม อย่างรุนแรง ซึ่งคนในประเทศไทยไม่คิดว่าบ้านเมืองของเราจะมีน้ำท่วมมากมายขนาดนี้ และมีความเสียหายกับทุกจังหวัดอย่างมากและเนื่องจากน้ำได้ท่วมมาเป็นเวลานานมาคนจึงตกงานส่งผลในหลายๆด้านจึงอยากให้คนไทยทุกคนมาช่วยเหลือกัน และน้ำท่วมมันมีสาเหตุมากมายที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งแนวแก้ไขดั้งเช่น ภัยจากน้ำท่วมลำดับมูลเหตุแนวทางแก้ไข

1   พื้นที่ป่าไม้บริเวณลาดเอียงเชิงเขาและสันเขาถูกทำลาย มีการปลูกพืชไร่ในพื้นที่ลาดเอียง(พืชเชิงเดี่ยว) ทำให้เวลาฝนตก ไม่มีต้นไม้ใหญ่ที่คอยดูดซับน้ำ น้ำจะไหลลงสู่พื้นราบอย่างรวดเร็ว มีการพังทลายของหน้าดิน พัดพาลงมาเป็นดินเลนและตะกอนดิน   หยุดการบุกรุกทำลายป่า ป่าเสื่อมโทรมทำการปลูกไม้ป่าทดแทน โดยการใช้เม็ดพันธ์หว่าน หรือย้ายต้นกล้าไปปลูกในพื้นที่ที่ต้องการ สำหรับพื้นที่ที่ถือครองโดยกรรมสิทธิ์ ส่งเสริมให้ปลูกไม้ยืนต้น หรือผสมผสานระหว่างพืชไร่กับไม้ยืนต้น โดยกำหนดสัดส่วนพื้นที่ปลูกให้เหมาะสม รวมถึงการปลูกหญ้าแฝกในแปลงปลูกพืช เพื่อชะลอการพังทลายของดิน
2   พื้นที่ต้นน้ำ คลอง ลำห้วย ทางน้ำ ไม่สามารถเป็นทางน้ำได้  เนื่องจาก ถูกบุกรุกถือครองกรรมสิทธิ์ หรือการทับถมของตะกอนดิน น้ำไหลเปลี่ยนทิศทาง อาจท่วมที่อยู่อาศัย หรือพื้นที่ทำกินได้รับความเสียหาย   ทำการขุดลอก คลอง ลำห้วย ทางน้ำ ให้น้ำสามารถไหลได้ดี พร้อมกันนี้ วางแผนจัดการสร้าง อ่างเก็บน้ำ หรือฝาย หรือเขื่อนตามความเหมาะสมตลอดลำน้ำเพื่อชะลอการไหลของน้ำ
แต่ในปีนี้ ปีพ.ศ.2555 ปัญหาน้ำท่วมก็น่าจะคงมีอยู่ถ้าทุกคนในประเทศไทยไม่ช่วยกันดูแลรักษาประเทศของเรา
 ดิฉันขอฝากไว้ว่า "ประเทศไทยเป็นของท่าน จงยึดมั่นรักษาไว้"


(((((บรรยากาศ จากภัยพิบัต))))